อักษรในภาษาญี่ปุ่น

https://aj-udomsook.com/nihonmoji/

ในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีอักษรอยู่ 3 ประเภทด้วยกันนั่นก็คือ ฮิรางานะ(Hiragana) คาตาคานะ(Katakana) และคันจิ(kanji)

ตัวอักษรฮิรางานะ(Hiragana) และคาตาคานะ(Katakana) เป็นตัวที่แสดงถึงสำเนียงการอ่าน ซึ่งอักษร1 ตัวจะมีเพียงแค่ 1 เสียง และทั้งสองประเภทนี้จะมีตัวอักษรอย่างละ 46 ตัว

ตัวอักษร ฮิรางานะ (Hiragana) ひらがな

Credit Photo ;https://happylilac.net/hiraganahyo-kakizyun.html

ตัวอักษร คาตาคานะ (Katakana) カタカナ

Credit Photo ; https://happylilac.net/katakanahyo-kakizyun.html

ข้อสังเกตความแตกต่างระหว่างฮิรางานะ(Hiragana) และคาตาคานะ(Katakana) สังเกตุได้ดังนี้

1.  ฮิรางานะ(Hiragana) ตัวอักษรจะค่อนข้างกลมกว่า คาตาคานะ (Katakana) ยกตัวอย่างเช่น

ตัวอักษร ฮิรางานะ                        ตัวอักษร คาตาคานะ

ひらがな                                       ヒラガナ         ==>       อ่านว่าฮิรางานะ

かたかな                                        カタカナ       ==>       อ่านวาคาตาคานะ

2.  ตัวอักษรคาตาคานะ(Katakana) จะถูกใช้ในกรณีที่เป็นคำอ่านของภาษาต่างประเทศ เช่น

ส้มตำ              ソムタム

ต้มยำกุ้ง          トムヤムクン

Computer       コンプュ-タ

Card                カード

ตัวอักษรคันจิ(Kanji)หรือตัวที่เหมือนภาษาจีน คืออักษรที่ใช้เขียนแสดงคำ ซึ่งนอกจากจะแสดงเสียงของคำนั้นๆแล้ว ยังแสดงออกถึงความหมายของคำนั้นๆได้อีกด้วย เช่น

日本          อ่านว่า   นิฮง  แปลว่าประเทศญี่ปุ่น

漢字         อ่านว่า   คันจิ  แปลว่าตัวอักษรคันจิ

魚             อ่านว่า  ซะกะนะ  แปลว่าปลา

นอกจากนี้ยังมีอีกประเภทหนึ่งที่ใช้ภาษาอักกฤษในการเขียน แต่สามารถอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ซึ่งถูกเรียกว่า โรมันจิ (Romanji) ซึ่งอักษรตัวนี้จะเห็นกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้แต่ไม่อยากเขียนภาษาญี่ปุ่น เช่นนักท่องเที่ยว และที่จะเห็นบ่อยอีกที่หนึ่งคือในร้านอาหารญี่ปุ่น ปัจจุบันนิยมใช้โรมันจิ(Romanji) ในการเรียนชื่ออาหาร เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักกับเมนูอาหารนั้นๆ

อีกทั้งโรมันจิยังใช้เขียนกำกับคำอ่านของภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้เข้าใจและอ่านออกได้ด้วยเช่นกัน อาทิเช่น

日本        nihon         แปลว่าประเทศญี่ปุ่น

漢字         kanji          แปลว่าตัวอักษรคันจิ

魚             sakana     แปลว่าปลา

จริงๆแล้วภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นใช่ไหมล่ะคะ หากเราเข้าใจในรูปแบบตัวอักษรของเขาแล้ว และเราก็มาปรับกับความชอบและความต้องการของเราว่าเราจะเรียนภาษาญี่ปุ่นไปเพื่ออะไร หากเราจะใช้พูดคุย สนทนาเอาแบบง่ายๆไม่ยุ่งยาก เราก็สามารถเลือกเรียนแบบใช้ตัวโรมันจิได้ค่ะ เพราะวิธีนี้เราไม่จำเป็นจะต้องจำอักษรเพิ่ม ส่วนสำหรับใครที่คิดจะเรียนเพื่อเอาไปทำงานบริษัท หรือมุ่งเน้นสาขานี้โดยตรง แน่นอนว่าอาจจะยากขึ้นมาหน่อยค่ะ แต่ขอให้เราพยายามฝึกฝนเป้าหมายเราก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นทุกคนค่ะ